ในช่วงที่ทั้ง 2 ทีม แข่งขันกันอย่างดุเดือด และเมื่อ จอร์แดน ยิงประตูขึ้นนำ อิรัก 1-0 ประตู ผู้เล่นจอร์แดนทำท่าฉลองหลังยิงประตู โดยผู้เล่นนั่งล้อมวงรับประทานอาหาร โดยใช้มือปั้นอาหารเข้าปาก โดยเป็นท่าดีใจที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการกินอาหารจอร์แดน ที่เรียกว่า มันซัฟ "Mansaf"

ต่อมา เมื่อ "อิรัก" ยิงประตูขึ้นนำ จอร์แดน  1-2 ประตู Aymen Hussein จึงทำท่าฉลองการยิงประตูในการรับประทานมันซัฟบ้าง แต่เป็นนั่งคนเดียว ซึ่ง Aymen Hussein ที่สะสมมาแล้ว 1 ใบเหลืองจึงถูกใบเหลือง 2 กลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม ทำให้อิรักเหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่าจอร์แดน

ต่อมา หลังจากนั้นจอร์แดนยิงตีเสมออิรัก 1-1 ประตู และแซงชนะ 2-3 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และ เป็นจอร์แดนที่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป ขณะที่ อิรัก ตกรอบ

ไทยพีบีเอส ออนไลน์ จึงพามารู้จัก "มันซัฟ" ที่มาของท่าฉลองหลังยิงประตู โดย "มันซัฟ" ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติ "จอร์แดน" โดยได้รับอิทธิพลมาจากชาวเบดูอิน (ชนเผ่าที่ดำรงชีวิตโดยเร่ร่อนอยู่กลางทะเลทราย ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในตอนเหนือของทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลาง ) โดยอาหารพื้นเมืองมักใช้น้ำมันมะกอก เครื่องเทศ กระเทียม หัวหอม และมะนาวเป็นเครื่องปรุงหลักและรับประทานคู่กับโยเกิร์ตแห้ง "มันซัฟ" มักจะทำจากเนื้อแกะ ไก่ ซึ่งในอดีตชาวเบดูอินจะใช้เนื้ออูฐ เนื้อแกะ แต่ปัจจุบันนิยมใช้เนื้อไก่ส่วนน่อง 

ด้วยเหตุที่ประเทศจอร์แดน เป็นประเทศที่ประชาชนนับถือศานาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ เนื้อสัตว์ที่นิยมรับประทานจึงเป็นแกะ วัว และไก่ โดย "จอร์แดน" มีอาหารประจำชาติ หลากหลายชนิด เช่น Mansaf, Makmoura, Rashouf, Warak Enab, Maqluba, Mujadara และ Musakhan

"มันซัฟ" ปรุงด้วยซอสโยเกิร์ตหมัก รสชาติอร่อย เสิร์ฟพร้อมข้าวผัด กระเทียม โรยด้วยถั่ว รับประทานคู่กับแป้งที่มีส่วนผสมของโยเกิร์ต 

มีวิธีการรับประทาน คือ เทน้ำโยเกิร์ตซึ่งทำจากนมวัวเทใส่ลงไปในข้าว จากนั้นใช้มือปั้นเป็นก้อนกลมในลักษณะหงายมือ แล้วใช้นิ้วโป้งดันก้อนข้าวเข้าปากเพื่อรับประทาน ซึ่งเป็นวิธีรับประทานสไตล์จอร์แดน

"มันซัฟ" เป็นอาหารที่นิยมรับประทานโดยทั่วไปในจอร์แดน รวมถึงประเทศใกล้เคียง ทั้ง ปาเลสไตน์, อิรัก, ซีเรียและซาอุดีอาระเบีย  

 

 

 


You may also like